เครื่องอบผ้าแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?

เครื่องอบผ้านั้นถือเป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยคนสำคัญในการทำให้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายยิ่งขึ้น เพียงแค่ นำผ้าที่ซักแล้วไปอบ จากนั้นนำออกมาและเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าได้เลยทันที การเลือกประเภทเครื่องซักผ้านั้นขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าแบบ Heat Pump หรือแบบ Condenser โดยเครื่องซักผ้าแบบ Heat Pump นั้นสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยม

สำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่ด้วยกันหลายคนสามารถเลือกเครื่องอบผ้าขนาดความจุ 9 กก. เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับทุกคนในครอบครัว หรือไม่ว่าจะเป็นความต้องการใช้งานอื่นๆ คุณก็สามารถเลือกเครื่องอบผ้าที่เหมาะกับการใช้งานของคุณได้เช่นกัน พบกับคู่มือการเลือกซื้อเครื่องอบผ้าของเราได้ที่นี่

เครื่องอบผ้าแบบไร้ใบพัดนั้นมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่เครื่องอบผ้าแบบ Heat Pump และเครื่องอบผ้าแบบ Condenser อีกทั้งยังมีเครื่องซักอบแบบ 2-in-1 ที่สามารถช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งได้อย่างยอดเยี่ยม

เครื่องอบผ้าแบบ Heat Pump คืออะไร? ใช้งานอย่างไร?

เครื่องอบผ้าแบบ Heat Pump นั้นถือเป็นเครื่องอบผ้าประเภทที่ช่วยประหยัดพลังงานได้มากที่สุด โดยหลักการทำงานคือการเพิ่มอุณหภูมิของอากาศที่หมุนเวียนภายในถังอบ และแม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่า แต่เครื่องอบผ้าแบบ Heat Pump นั้นก็สามารถช่วยประหยัดทั้งพลังงานและค่าใช้จ่ายได้อย่างดีเยี่ยมนั่นเอง

โดยในทางเทคนิคแล้ว เครื่องอบผ้าแบบ Heat Pump นั้นเป็นประเภทหนึ่งของเครื่องอบผ้าแบบ Condenser ที่ใช้หลักการหมุนเวียนของอากาศภายในตัวถังอบเพื่อทำความร้อนให้ผ้าแห้งนั่นเอง

เครื่องอบผ้าแบบ Condenser คืออะไร? ใช้งานอย่างไร?

เครื่องอบผ้าแบบ Consumer นั้นเป็นเครื่องอบผ้าที่สามารถอบให้ผ้าแห้งได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ใช้พลังงานในการทำงานมากกว่าเช่นกัน โดยหลักการทำงานคือการดึงความชื้นของน้ำภายในตัวเครื่องอบออกมาเพื่อทำให้ผ้าแห้งนั่นเอง

เครื่องซักอบคืออะไร?

เครื่องซักอบนั้นคือการรวมกันของเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าไว้ในเครื่องเดียว ช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งสำหรับบ้านที่มีพื้นที่น้อย โดยปกติแล้วเครื่องซักอบจะมาความจุของตัวถังที่น้อยกว่าเครื่องอบผ้าทั่วไปนั่นเอง

ความจุของถังอบผ้านั้นบ่งบอกถึงปริมาณของเสื้อผ้าที่สามารถนำเข้าไปอบได้ในเวลาเดียวกัน โดยเครื่องอบผ้าของเรานั้นมีตั้งแต่ 7 กก. - 9 กก. โดยคุณสามารถเลือกความจุของเครื่องอบผ้าได้ตามจำนวนสมาชิกภายในบ้านที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน รวมไปถึงขนาดของพื้นที่ในการติดตั้งและความต้องการในการใช้งานของคุณด้วยนั่นเอง

เครื่องอบผ้าแบบทั่วไปนั่นใช้พลังงานในการทำงานเยอะ อีกทั้งยังไม่ปลอดภัยต่อโลกและต่อกระเป๋าสตางค์ของคุณ แต่เครื่องอบผ้าแบบ Heat Pump ที่ใช้พลังงานน้อยกว่านั้นสามารถช่วยให้คุณประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องอบผ้าประเภทอื่นๆนั่นเอง

Bosch มีเครื่องอบผ้ามาตรฐานระดับ A หลากหลายรุ่น และนอกจากนี้เครื่องอบผ้าประหยัดพลังงานของเรายังได้เกรด A+++ จากมาตรฐานการประหยัดพลังงานอีกด้วย

การเลือกเครื่องอบผ้าที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการอบในโปรแกรมไหนถือเป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว

เครื่องอบผ้าจาก Bosch หลากหลายรุ่นมาพร้อมกับนวัตกรรม AutoDry ที่จะช่วยลดระยะเวลาในการอบผ้าลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้เสื้อผ้าตัวเก่งของคุณแห้งสนิทอยู่เสมอ นอกจากนี้ เครื่องซักอบของเรายังสามารถช่วยลดระยะเวลาในการซักและอบผ้าลงได้สูงถึง 60 นาทีอีกด้วย

โดยทั่วไปแล้ว เครื่องอบผ้านั้นมันจะส่งเสียงดังระหว่างการทำงานของตัวเครื่องน้อยกว่าเครื่องซักผ้า แต่ก็ยังสามารถส่งเสียงระหว่างการทำงานรบกวนได้อยู่ดี เพราะฉะนั้น การเลือกเครื่องอบผ้าที่ไม่ส่งเสียงดังรบกวนระหว่างการทำงานนั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ โดยเครื่องอบผ้าจาก Bosch ที่ไม่ส่งเสียงดังระหว่างการทำงานนั้นมีเสียงดังเพียง 59 - 62 เดซิเบล ซึ่งเทียบเท่ากับเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆเท่านั้น

เส้นใยจากเสื้อผ้านั้นสามารถตกค้างในถังอบได้หลังการอบทุกครั้ง และเครื่องอบผ้าจาก Bosch นั้นมาพร้อมกับที่กรองเส้นใยตกค้างที่จะช่วยรักษาความสะอาดให้กับเครื่องอบผ้าของคุณได้อย่างดีเยี่ยม

ให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ AutoClean

เครื่องอบผ้าที่มาพร้อมกับระบบ AutoClean นั้นจะเก็บเส้นใยจากเนื้อผ้าไว้ภายในตัวเครื่อง และสามารถถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดได้หลังจากการอบผ้า 20 ครั้งนั่นเอง

ให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย SelfCleaning Condenser

เครื่องอบผ้าที่มาพร้อมกับ SelfCleaning Conderser นั้นสามารถทำความสะอาดตัวถังอบได้ในอัตโนมัติ โดยควรทำความสะอาดตัวกรองเส้นใยตกค้างหลังการอบผ้าทุกครั้ง

ให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยตัวกรองเส้นใยตกค้างภายในตัวเครื่อง

เครื่องอบผ้าบางรุ่นนั้นจะมาพร้อมกับที่กรองเส้นใยบริเวณฝาเครื่อง ซึ่งควรถอดนำไปทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน ส่วนตัวกรอง EasyClean ที่ใต้เครื่องนั้นควรนำออกมาทำความสะอาดหลังการใช้งานประมาณ 20 ครั้ง

ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการอบผ้าที่มีเนื้อผ้าละเอียดอ่อน การอบผ้าโดยไม่ให้เกิดรอยยับ หรือเครื่องอบผ้าที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นเพื่อความสะดวกในการใช้งานได้ โปรแกรมเหล่านี้มีอยู่ในเครื่องอบผ้าจาก Bosch และนี่คือ 4 โปรแกรมหลักที่เราอยากแนะนำให้กับคุณ

ระบบ SmartDry จะช่วยเลือกโปรแกรมการอบผ้าที่เหมาะสำหรับเสื้อผ้าของคุณได้อัตโนมัติ

ระบบ SensitiveDrying ช่วยดูแลรักษาเนื้อผ้าให้นุ่มและไม่เกิดรอยยับ

นวัตกรรม IronAssist สามารถช่วยลดรอยยับของเสื้อผ้าได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยคุณประหยัดเวลาในการรีดเสื้อลงได้เป็นอย่างดี

เชื่อมต่อเครื่องอบผ้าด้วยแอปพลิชั่น Home Connect เพื่อให้คุณสามารถควบคุมการทำงานและเลือกโปรแกรมการอบได้ด้วยตัวคุณเองจากทุกที่ที่เวลา

อายุการใช้งานของเครื่องอบผ้านั้นมักจะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุของตัวเครื่องและการดูแลรักษา ซึ่งเครื่องอบผ้าจาก Bosch นั้นประกอบด้วยวัสดุคุณภาพสูงมาตรฐานเยอรมัน อีกทั้งยังมีการทดสอบและได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตเพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณ

ขนาดของเครื่องอบผ้าจาก Bosch นั้นจะอยู่ที่ 85 x 60 x 60 ซม. ถือเป็นขนาดมาตรฐานของเครื่องอบผ้าทั่วไปนั่นเอง

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ : เครื่องอบผ้ารุ่นที่มีความจุถังอบมากกว่านั้นมีขนาดของตัวเครื่องเท่ากับรุ่นที่มีความจุน้อยกว่า

คำตอบของคำถามว่าเครื่องอบผ้ารุ่นไหนดีที่สุดนั้นคือเครื่องอบผ้ารุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นขนาดของพื้นที่ในการติดตั้ง ประเภทของเสื้อผ้าที่ต้องการอบ และโปรแกรมการทำงานของตัวเครื่อง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยในชีวิตประจำวันของคุณนั่นเอง