7 เคล็ดลับในการป้องกันบ้านคุณจากภูมิแพ้

ภูมิแพ้เกิดขึ้นได้กับทุกคน มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายกับสารที่ก่อภูมิแพ้ สารบางอย่างอาจมีผลเพียงเล็กน้อยกับบางคน แต่อาจจะกระตุ้นอาการคันหรือรบกวนการหายใจอย่างมากกับบางคน ถ้าคุณไม่กำจัดสารก่อภูมิแพ้ที่บ้านอาการแพ้จะไม่หยุดลง

ดังนั้นเก็บยาแอนตี้ฮิสตามีน (anti-histamine) ไว้ก่อนและลองใช้ 7 วิธีง่าย ๆ เหล่านี้เพื่อทำให้บ้านคุณปลอดภัยจากภูมิแพ้

มีคนจำนวนมากกว่า 344 ล้านคนทั่วโลกที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคหอบหืดในปี 2014 ตามรายงานที่รวบรวมโดย Global Asthma Network สถิตินี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง เราขอแนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่ไม่เพียงแต่ดูดสิ่งสกปรกแต่ยังดูแลคุณ ลืมถุงเก็บฝุ่นแบบเก่าธรรมดาไปได้ เรากำลังพูดถึงแผ่นกรองอากาศแบบ HEPA (High Efficiency Particulate Air) ที่มีความสามารถในการกำจัดสารก่อภูมิแพ้ขนาดเล็ก เช่น เกสรดอกไม้ และแบคทีเรีย

เลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถล้างทำความสะอาดได้ - ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่าย คุณสามารถล้างและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ มันยังสามารถกรองสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่าถุงเก็บฝุ่นทั่วไป ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เป็นโรคภูมิแพ้ หากคุณเป็นโรคภูมิแพ้คุณอาจต้องดูดฝุ่นมากกว่าปกติ ดังนั้นควรเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่น ที่มีเสียงเงียบในการใช้งานเพื่อจะไม่ปลุกคนในครอบครัวในขณะที่คุณทำความสะอาด สำหรับตัวเลือกที่คุณจะไม่ต้องใส่ใจดูแลมาก ให้เลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้ถุงเพื่อลดความยุ่งยากในการเปลี่ยนถุงเก็บฝุ่น- และยังช่วยประหยัดเวลาและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

ในขณะที่คุณอาจชอบที่จะผ่อนคลายด้วยการอ่านหนังสือทุกเย็น คุณอาจจะอยากพิจารณาเรื่องนี้ - ตู้หนังสือเป็นหนึ่งในกับดักฝุ่นที่ใหญ่ที่สุดในบ้านส่วนใหญ่ซึ่งโดยปกติจะไม่มีใครสังเกตเห็น ดังนั้นควรเก็บหนังสือของคุณไว้ในตู้ที่มีประตูปิด และพยายามลดจำนวนตู้เก็บของแบบเปิดในบ้าน ซึ่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการกำจัดเฟอร์นิเจอร์ที่เก็บฝุ่น พรมดึงดูดและเก็บฝุ่น ทำให้มันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ใหญ่ที่สุดของการเกิดโรคภูมิแพ้ ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้ไม้เนื้อแข็งหรือลามิเนตที่ทำความสะอาดง่าย หากคุณไม่ต้องการทิ้งพรมหนาขนนุ่มที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของคุณ ลองลงทุนกับเครื่องดูดฝุ่นที่ดีที่มีแปรงเทอร์โบเพื่อให้เก็บฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น อีกทางหนึ่งคือลองพรมพรมสั้นที่ไม่ดักจับสารก่อภูมิแพ้ง่ายเกินไปและอย่าลืมดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้ง

รองเท้าไม่เพียงแค่เก็บฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้จากภายนอก แต่ยังนำสิ่งสกปรกเข้ามาภายในบ้านของคุณด้วย มันทำให้การทำความสะอาดยากมากขึ้น ดังนั้นแทนที่จะสวมรองเท้าเข้าบ้าน ลองพิจารณาซื้อรองเท้าแตะนุ่ม ๆ ให้สมาชิกในครอบครัว ตอนนี้เรากำลังพูดถึงความสะอาดและความสะดวกสบาย ให้ติดตั้งตู้ใส่รองเท้าที่ประตูหลัก เตือนให้สมาชิกในครอบครัวของคุณเปลี่ยนรองเท้าเมื่อเข้ามาในบ้าน - ทำให้ทางเข้าประตูของคุณเรียบร้อยและไม่เกะกะ

เชื้อราเจริญเติบโตในสภาพที่มีความชื้น และเราทุกคนรู้ดีว่าห้องครัวและห้องน้ำของคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อรา เมื่อทำความสะอาดให้ตรวจสอบบริเวณรอยแตกหรือตามรอยยาแนวรอบอ่างล้างมือและอ่างอาบน้ำอย่างระมัดระวัง เพื่อดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ หากคุณเห็นส่วนที่เป็นราขึ้น ให้ทำความสะอาดด้วยการขัดและทำให้มันแห้งเพื่อให้เชื้อราไม่ก่อตัวใหม่ อย่าลืมล้างภาชนะบรรจุน้ำที่อยู่นิ่งๆ (ไข้เลือดออกไม่ใช่สารก่อภูมิแพ้ แต่เป็นอันตราย) และพิจารณาติดตั้งเครื่องลดความชื้นในบริเวณที่เปียกชื้นมากที่สุดในบ้านเพื่อป้องกันเชื้อราและโรคที่เกิดจากเชื้อรา

การแพ้สะเก็ดผิวหนังของสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงอื่น และเกสรดอกไม้เป็นสองสาเหตุของการแพ้ที่พบบ่อยที่สุด หากคุณสงสัยว่าคุณอาจแพ้สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยงให้ทดสอบก่อนตัดสินใจซื้อสัตว์เลี้ยง หากคุณเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอยู่แล้วพยายามลดให้สัตว์เลี้ยงของคุณนอนในห้องนอน และไม่ควรอยู่บนเตียงที่อาจทำให้คุณหายใจลำบาก ดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงของคุณให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ สำหรับคนที่ชอบปลูกต้นไม้ เช่นเดียวกับเลี้ยงสัตว์ พยายามทำให้ต้นไม้อยู่ข้างนอกบ้าน หากคุณไม่สามารถเลิกงานอดิเรกทำสวนของคุณหรือเพลิดเพลินกับความเขียวขจีรอบ ๆ ให้ลองปลูกพืชเทียม หรือทำสวนแบบไฮโดรโปนิกแทนเพื่อลดอาการจาม

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ เลือกวัสดุทำความสะอาดง่ายและไม่ต้องบำรุงรักษามาก เช่น หนังเทียม (pleather) ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่ดักจับฝุ่นและสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย แต่ถ้าคุณไม่สามารถต้านทานเนื้อสัมผัสและความสะดวกสบายของโซฟาหนังกลับ, ผ้าลินิน, หรือโซฟาผ้า ให้แน่ใจว่าคุณต้องดูดฝุ่นอย่างน้อยเดือนละครั้ง เครื่องดูดฝุ่นบางยี่ห้อมีหัวแปรงพิเศษที่มีความสามารถเฉพาะในการทำความสะอาดเบาะและโซฟาผ้า การใช้แรงกดเบา ๆ จะป้องกันความเสียหายโดยไม่ได้ตั้งใจ และแปรงขนนุ่มช่วยให้เก็บฝุ่นและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พยายามหลีกเลี่ยงผ้าม่านที่หนักสำหรับหน้าต่าง ควรใช้มู่ลี่หรือม่านที่วัสดุมีน้ำหนักเบาและโปร่งซึ่งล้างทำความสะอาดได้ง่าย

หลังจากซักผ้าปูที่นอนของคุณแล้วให้พยายามตากแดดทุกครั้งท เพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ รังสียูวีจากดวงอาทิตย์ช่วยฆ่าไรฝุ่นและจุลินทรีย์ หากการตากผ้าของคุณเป็นเรื่องยาก เนื่องจากสภาพอากาศหรือพื้นที่จำกัด - ใช้เตารีดไอน้ำเพื่อฆ่าเชื้อผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้าของคุณแทน เป็นการดีที่สุดที่จะซักเสื้อผ้าของคุณในน้ำร้อนระหว่าง 45 ถึง 60 องศาเซลเซียส เมื่อแห้งให้ตี เพื่อกำจัดฝุ่นอื่น ๆ ที่อาจตกลงบน ผ้าปูที่นอน เพื่อลดฝุ่นให้เหลือน้อยที่สุดโดยเก็บเสื้อผ้า (เช่น ชุดสำหรับฤดูหนาว) ที่คุณจะไม่ใช้เป็นเวลานาน - ซึ่งช่วยประหยัดเวลาพื้นที่และช่วยให้สิ่งต่าง ๆ เป็นระเบียบและปลอดฝุ่น!