และนี่คือตู้เย็นทั้ง 7 ประเภทที่เราขอนำเสนอให้กับคุณ และอย่าลืมว่าการเลือกตู้เย็นแต่ละประเภทนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานและดีไซน์ที่คุณต้องการ เพราะฉะนั้น อย่าลืมเลือกตู้เย็นให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ
การออกแบบที่ผสมผสานระหว่างกลิ่นอายของยุคกลางและยุคใหม่นั้นทำให้คุณได้ตู้เย็นที่มีความหลากหลายและสามารถเลือกได้ตามใจชอบและตามที่เหมาะสมกับห้องครัวของคุณ ด้วยการที่มีตัวเลือกมากมายนั้น ทำให้คุณต้องเลือกตู้เย็นที่เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของคุณให้มากที่สุด เช่น ขนาดของตู้เย็น ขนาดความจุตู้เย็น ระบบรักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบ หรือแม้แต่วิธีการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหารของคุณก็มีผลเช่นกัน และนี่คือตู้เย็นประเภทต่างๆที่เราอยากนำเสนอให้กับคุณวันนี้
1. ตู้เย็นแบบ Built-in
ตู้เย็นแบบ Built-in นั้นถูกออกแบบมาให้มีดีไซน์ที่พอดีกับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆและผนังของห้องครัวของคุณเพื่อความสวยงามแบบไร้ที่ติ อย่าลืมปรึกษากับนักออกแบบภายในสำหรับขนาดพื้นที่ในการติดตั้งที่แนะนำก่อนทำการติดตั้ง และอย่าลืมเว้นช่องว่างไว้ซักนิดเพื่อให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ง่าย
นอกเหนือจากความสวยงามที่คุณจะได้รับแล้วนั้น ตู้เย็นแบบฝังผนังเหล่านี้ยังมีบานพับประตูแบบซ่อน กระจกนิรภัย และแผงไฟ LED ที่จะช่วยให้ยกระดับห้องครัวของคุณให้ดูล้ำสมัย สวยงาม และยังสามารถใช้งานได้จริงอีกด้วย
2. ตู้เย็นแบบ Top Freezer
หากคุณเป็นคนที่ใช้งานช่องแช่แข็งบ่อยๆ การมีตู้เย็นแบบ Top Freezer คงจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานให้กัยคุณไม่ใช่น้อย เพราะคุณจะไม่ต้องก้มๆเงยๆเพื่อไปหยิบของที่ต้องการจากตู้แช่แข็งด้านล่าง ถือเป็นประเภทของตู้เย็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในปัจจุบันเลยทีเดียว
ตัวตู้เย็นประกอบไปด้วยช่องใส่อาหารสดที่มีช่องแช่แข็งแยกไว้อยู่ที่ด้านบนและถือว่าเหมาะสำหรับห้องครัวขนาดเล็ก ในปัจจุบันนั้นถือว่ามีตัวเลือกของตู้เย็นประเภทนี้ที่มีการออกแบบที่ทันสมัย บางรุ่นมีฟังก์ชั่นของแผงควบคุม LED สุดล้ำบนพื้นผิวสแตนเลสสตีลสุดคลาสสิคที่ไม่ทำให้เกิดรอยนิ้วมือ หรือคุณสามารถเลือกสีของตู้เย็นและลายลามิเนตที่แตกต่างกันได้ด้วยตัวคุณเอง
3. ตู้เย็นแบบ Bottom Freezer
ตู้แช่แข็งที่อยู่ด้านล่างนั้นเหมาะสำหรับครอบครัวที่ใช้งานตู้เย็นในช่องปกติบ่อยกว่าช่องแช่แข็ง ทำให้คุณต้องก้มๆเงยๆเพื่อลงไปหยิบของอยู่บ่อยๆเนื่องจากช่องปกตินั้นจะอยู่ในระดับสายตาของคุณ ทำให้การหยิบของต่างๆจากตู้เย็นเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชั้นวางด้านในที่ปรับระดับได้ ทำให้คุณสามารถจัดเรียงและเก็บวัตถุดิบต่างๆได้ตามความเหมาะสมและเป็นระเบียบยิ่งกว่าเดิม และหากคุณต้องการความเป็นระเบียบในการจัดเก็บขั้นสูงสุด ให้ใช้ขวดหรือภาชนะที่มีขนาดเดียวกันเพื่อการจัดเก็บที่ง่ายยิ่งกว่าเดิม
การจัดตู้เย็นให้เป็นระเบียบนั้น นอกจากจะช่วยให้การหยิบของเป็นเรื่องง่ายแล้ว ยังสามารถช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟและพลังงานได้อีกด้วยเนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาเปิดประตูตู้เย็นเป็นเวลานานๆเพื่อหาของที่คุณต้องการ และการมีชั้นวางของที่สามารถถอดออกได้นั้นทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายอีกด้วย
4. ตู้เย็นแบบ Side-by-Side
การแบ่งช่องเก็บอาหารสดไว้ด้านหนึ่งและช่องแช่แข็งอีกด้านหนึ่งนั้นทำให้การหยิบของต่างๆในทั้งสองช่องนั้นเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ด้วยความจุขนาดใหญ่ของตู้เย็นในรุ่นนี้ทำให้เหมาะสำหัรบการใช้งานภายในครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ใช้พื้นที่ที่มากเกินไปนัก เมื่อเปรียบเทียบกับตู้เย็นแบบประตูเดี่ยวนั้นถือว่ามีการใช้พื้นที่ในการเปิดประตูที่น้อยกว่า ทำให้เหมาะสำหรับห้องครัวที่มีพื้นที่ทางเดินไม่มากนัก
นอกจากพื้นที่จัดเก็บด้านในตู้เย็นแล้ว ตู้เย็นแบบ Side-by-Side บางรุ่นนั้นยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆเช่นเครื่องทำน้ำแข็งในตัว ระบบประหยัดพลังงาน และแผงหน้าจอควบคุม LED เพื่อให้การใช้งานนั้นง่ายและได้ประสิทธิภาพสูงสุด และด้วยพื้นผิวแบบสแตนเลสสตีลและประตูกระจกนั้นทำให้ตู้เย็นของคุณมีความสวยงามและทันสมัยกว่าใครเพื่อน!
5. ตู้เย็นแบบ French Door
ตู้เย็นรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วที่ได้รับการพัฒนามาจากตู้เย็นแบบ Side-by-Side ที่ทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและย้ายช่องแช่แข็งไปไว้ที่ด้านล่างของตัวตู้เย็น การเลือกตู้เย็นประเภทนี้นั้นจะทำให้การหยิบของต่างๆจากทั้งช่องปกติและช่องแช่แข็งเป็นเรื่องง่ายทั้งคู่ การออกแบบตู้เย็นแบบ french Door นั้นทำให้ตู้เย็นที่เป็นประตูเปิดออกจากกันนั้นยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่ด้านล่างในการเก็บวัตถุดิบต่างๆโดยไม่มีอะไรกั้นตรงกลางนั่นเอง
ลักษณะที่เหมือนกันกับตู้เย็นแบบ Side-by-Side นั่นคือการมีช่องความชื้นขนาดใหญ่สำหรับเก็บวัตถุดิบเพื่อช่วยรักษาความสดของอาหารไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก หรือผลไม้ ซึ่งการมีชั้นวางที่พับได้นั้นจะช่วยให้การหยิบของต่างๆที่อยู่ด้านในของตู้เย็นนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
6. ตู้เย็นแบบ Wine Cooler
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงไหลการสังสรรค์และการดื่มไวน์ และเริ่มรู้สึกว่าขวดไวน์นั้นเริ่มที่จะล้มทะลักออกมาจากตู้เย็นแล้ว เราขอแนะนำตู้เย็นแบบ Wine Cooler ที่มาพร้อมกับระบบการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่ยอดเยี่ยมเพื่อช่วยในการเก็บรักษาไวน์ในระยะยาว นอกจากนี้ยังสามารถช่วยขจัดกลิ่นและลดการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านี้ ตู้เย็นแบบ Wine Cooler นั้นจะยังสามารถปกป้องไวน์ขวดโปรดของคุณจากรังสียูวี ระดับความชื้นที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่อาจทำให้ไวน์เสียรสชาติได้
7. ตู้เย็นแบบคลาสสิค
หากคุณกำลังมองหาตู้เย็นขนาดเล็กเพื่อการใช้งานภายในห้องหรือออฟฟิศที่มีขนาดไม่มากนั้น ตู้เย็นแบบคลาสสิคที่มาพร้อมกับช่องแช่แข็งแบบฝังผนังนี้ถือเป็นคำตอบที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานอย่างแน่นอน
ตู้เย็นแบบคลาสสิคจาก Bosch นั้นถือเป็นตู้เย็นที่มีขนาดกะทัดรัด มีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป และสามารถวางตั้งไว้ได้แม้มีพื้นที่น้อย ด้วยดีไซน์การออกแบบแบบวินเทจและมือจับที่มีความโค้งมนนั้นถือว่าเป็นดีไซน์ที่ไม่เคยเก่าที่จะทำให้แขกของคุณต้องพูดถึงอยู่เสมออย่างแน่นอน