เคล็ดไม่ลับสำหรับการเก็บอาหารที่ยอดเยี่ยม ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าคุณจำต้องทิ้งอาหารหรือวัตถุดิบที่ค้างไว้ในตู้เย็นนานเกินไปจนคุณลืมเพราะทั้งเสียดายเงินและเสียเวลา
การเก็บอาหารที่เหมาะสมนั้นจะช่วยรักษาสารอาหารในวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี และทำให้วัตถุดิบไม่เสียเร็วกว่าที่ควรจะเป็นอีกด้วย และนี่คือเคล็ดไม่ลับของการเริ่มเก็บอาหารแบบถูกวิธี
1. อย่าซื้อวัตถุดิบมากักตุนมาเกินไป
นี่คือสิ่งที่คนหลายๆคนทำพลาดมากที่สุด การเก็บอาหารในปริมาณที่มากเกินไปในตู้เย็นนั้นจะทำให้การไหลเวียนของอากาศภายในตู้เย็นไม่ดีเท่าที่ควร และทำให้บางพื้นที่ภายในตู้เย็นนั้นไม่เย็นเท่าที่ควรจะเป้นอีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากรานั่นเอง
เพราะฉะนั้น ควรเก็บอาหารไว้ในตู้เย็นโดยวางให้ห่างกันประมาณครึ่งนิ้ว และพยายามไม่วางอาหารไว้ที่ด้านในหรือด้านข้างของตู้เย็นเพื่อทำให้การไหลเวียนของอากาศเป็นไปได้ดี
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเก็บอาหารเต็มตู้เย็นได้เหมือนเดิม เพียงแค่เว้นช่องว่างเล็กน้อยเพื่อให้มีพื้นที่ไหลเวียนของอากาศเมื่อเปิดประตูตู้เย็น และเว้นระยะห่างเล็กน้อยระหว่างอาหารกับตัววัดอุณหภูมิภายในตู้เย็นเพื่อทำให้การคำนวนอุณหภูมิภายในตู้เย็นทำได้ดียิ่งขึ้น
2. อย่าลืมใช้ช่องเก็บอาหารช่องอื่นๆด้วย
หลังจากซื้อวัตถุดิบต่างๆกลับบ้านมาแล้ว คุณอาจต้องการยัดทุกอย่างใส่ตู้เย็นเพื่อที่จะได้ทำอย่างอื่นต่อ และหากคุณต้องการยืดอายุของวัตถุดิบที่เพิ่งซื้อมา ก็ต้องมีการวางแผนการเก็บอาหารในแต่ละช่องกันซักหน่อย
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องแยกอาหารสดกับอาหารปรุงสุกเพื่อทำไม่ให้เกิดการเน่าเสียของอาหาร เนื้อสัตว์ต่างๆ นั้นควรต้องเก็บไว้ในช่องแช่แข็งนอกจากจะนำเนื้อสัตว์เหล่านั้นมาทำอาหารมื้อถัดไป ควรเก็บผักและผลไม้ไว้ในช่องใต้ช่องแช่แข็งเพื่อเพิ่มความชื้นให้กับวัตถุดิบด้วยอุณภูมิและการไหลเวียนของอากาศที่เหมาะสมเพื่อช่วยยืดอายุของอาหารให้ยาวนานยิ่งขึ้นได้สูงถึง 3 เท่า*
และอย่าลืมว่าอย่าล้างผักและผลไม้ก่อนนำเข้าแช่ตู้เย็นเพราะความชื้นจะทำให้ผักและผมไม้เสียเร็วยิ่งขึ้น
3. แบ่งอาหารออกเป็นขนาดที่พอดีต่อการรับประทานก่อนนำไปแช่แข็ง
ข้อดีของการแบ่งอาหารเป็นชิ้นที่พอดีต่อการรับประทานจะช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหารไปได้อย่างดีเยี่ยม และชิ้นอาหารที่มีขนาดเล็กนั้นจะสามารถละลายได้เร็วขึ้นด้วย อีกทั้งยังทำให้คุณไม่ต้องเก็บอาหารแช่แข็งอีกรอบเพราะนั่นอาจทำให้เกิดแบคทีเรียในอาหารที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
ถาดน้ำแข็งนั้นถือเป็นที่เก็บส่วนผสมต่างๆชั้นดีเพราะเราใช้งานส่วนผสมเหล่านี้ในปริมาณน้อยต่อครั้ง สามารถหยิบมาใช้งานเพียงแค่ 1-2 ชิ้นและเก็บที่เหลือไว้ใช้รอบหน้าได้อีกหลายครั้ง
การจดวันที่เริ่มเก็บอาหารแช่แข็งและทำให้เป็นนิสัยนั้นจะช่วยให้คุณรู้ได้ว่าคุณเก็บอาหารแช่แข็งนี้มานานเท่าไหร่แล้ว และการเก็บอาหารแช่แข็งในกล่องที่แยกไว้อย่างเป็นระเบียบจะช่วยให้คุณแยกประเภทของอาหารได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปิดฝาเลยทีเดียว
4. เก็บอาหารที่ทานเหลือไว้ในกล่องเก็บอาหารที่เหมาะสม
การเก็บอาหารจากมื้อที่แล้วที่เหลือไว้ในกล่องที่มีขนาดเล็กและแบนนั้นจะช่วยทำให้อาหารเย็นเร็วขึ้น เพราะการวางอาหารทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลานานนั้นจะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตซึ่งถือเป็นอันตรายต่อร่างกายนั่นเอง
คุณสามารถเก็บอาหารอุ่นๆเข้าตู้เย็นได้เลยทันทีหากมันอาหารนั้นไม่ได้มีความร้อนสูง เพราะการเก็บอาหารที่มีความร้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการเก็บอาหารที่มีความร้อนในภาชนะที่มีความกว้าง นั้นจะทำให้บริเวณตรงกลางของอาหารเย็นไม่ทันบริเวณรอบๆ และนั่นจะทำให้อาหารเน่าเสียได้ คำแนะนำคือให้ควรเก็บอาหารไว้ในกล่องทรงตื้นแทน
หากคุณต้องการจะเก็บซุปที่เหลือจากมื้ออาหารแสนอร่อยหรือแกงต่างๆ อย่าลืมเว้นพื้นที่ไว้ซักนิดเพราะว่าของเหลวนั้นจะขยายตัวขึ้นเมื่อเจอกับความเย็นนั่นเอง
เคล็ดไม่ลับของเราจะช่วยให้คุณไม่ต้องโยนอาหารที่เหลือทิ้งไปฟรีๆ และเคล็ดไม่ลับข้อสุดท้ายที่เราอยากแนะนำคือหากคุณไม่แน่ใจว่าอาหารที่เก็บไว้จะเน่าเสียหรือยัง อย่าลังเลที่จะโยนทิ้งเพื่อความปลอดภัยต่อสขภาพของตัวคุณเอง
*ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภทของตู้เย็นของคุณ